คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอยากอยากทราบว่า
เด็ก ๆ สามารถออกกำลังกายได้ไหม
และกิจกรรมออกกำลังกายแบบใด
เหมาะกับเด็ก ๆ วัย 1- 3ขวบ
หาคำตอบได้จากบทความนี้
เด็กวัย 1 – 3 ขวบ เป็นวัยที่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ
ได้ดีขึ้นกว่าในช่วงแรกเกิด - 12 เดือน ดังนั้น
การเลือกกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกาย
ที่เหมาะสมกับพัฒนาการของร่างกาย
ก็จะช่วยกระตุ้น และเสริมสร้างความแข็งแรง
ของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
แต่ในปัจจุบันกลับพบว่า
เด็กเล็กจำนวนมากกลับมีปัญหาสุขภาพมากขึ้น
เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่มักปล่อยให้ลูกรัก
ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับหน้าจอโทรทัศน์
และเติบโตขึ้นมาพร้อมกับสมาร์ทโฟน
เมื่อร่างกายไม่ค่อยได้มีการเคลื่อนไหว พลังงานไม่ได้ถูกใช้ไปตามวัย
กล้ามเนื้อบางส่วนไม่ได้รับการกระตุ้นอย่างเหมาะสม
ก็จะส่งผลให้เด็ก ๆ มีปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น
มีน้ำหนักตัวมากกว่า หรือต่ำกว่าปกติ มีพัฒนาการของกล้ามเนื้อ
และอวัยวะต่ำกว่าเกณฑ์ รวมทั้งยังเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ เป็นประจำ
สำหรับเด็กเล็กวัยก่อนเข้าเรียน หรืออายุประมาณ 1 - 3 ขวบ
เป็นวัยที่เปี่ยมไปด้วยพลัง และมีพัฒนาการด้านร่างกาย
ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดด ทั้งน้ำหนักตัว ความสูง
ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และพัฒนาการด้านความฉลาด
หากได้รับการกระตุ้นที่เหมาะสม ก็จะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่ง
ในการเติบโตเป็นเด็กที่ดี และมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต
แต่ก่อนจะไปถึงแนวทางการชวนลูกทำกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกาย
อยากชวนคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านมาเช็กพัฒนาการของลูกกันว่า
เจ้าตัวเล็กในช่วงวัย 1 - 3 ขวบ สามารถทำอะไรได้แล้วบ้าง
พัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กวัย 1 ขวบ
ยืนได้เองชั่วคราว โดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่คอยช่วย
ประคองจูงมือเดินได้ และเดินเองได้เป็นระยะทางสั้น ๆ
วางของซ้อนกันได้ 2 ชิ้น หรือหยิบสิ่งของ
ทรงกลมวางลงในช่องที่กำหนดได้
ใช้ช้อนตักอาหารเข้าปากตนเองได้
แม้ว่าจะยังหกเลอะเทอะก็ตาม
พัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กวัย 2 ขวบ
เดินคล่อง วิ่งเองได้
โดยไม่ต้องมีผู้ใหญ่คอยช่วยอยู่ข้าง ๆ
ให้ผู้ใหญ่จูงมือข้างเดียวเดินขึ้นบันไดได้
เดินถอยหลังได้ เตะลูกบอลได้
วางของซ้อนกันได้ 4 - 6 ชิ้น
ขีดเขียนเป็นเส้นยุ่ง ๆ หรือขีดเส้นตรงในแนวดิ่งได้
ใช้ช้อนตักอาหารรับประทานเอง และยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเองได้
โดยไม่หกเลอะเทอะ เริ่มถอดเสื้อผ้าเองได้
พัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กวัย 3 ขวบ
เตะลูกบอล หรือขว้างบอลได้
กระโดดสองขาได้ ยืนขาเดียวได้ 2 – 3 วินาที
เดินขึ้นลงบันไดแบบสลับเท้าได้คล่องแคล่ว
ขี่จักรยานทรงตัว หรือขี่จักรยานที่มีล้อช่วยพยุงได้
เปิดหนังสือได้ทีละหน้า เขียนรูปกากบาท
และวงกลมตามตัวอย่างได้
ใส่ และถอดเสื้อผ้าเองได้
เพื่อให้ลูกรักมีสุขภาพแข็งแรง และมีพัฒนาการที่ดีสมวัย
คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านร่างกาย
ด้วยกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกาย
ที่เหมาะกับเด็กเล็กวัย 1 – 3 ขวบ ดังนี้
เด็กวัยนี้สามารถเคลื่อนไหวได้อิสระมากขึ้น
รู้สึกว่าอยากทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง
และสามารถสื่อสารบอกผู้อื่นได้โดยมีการใช้ท่าทางประกอบ
กิจกรรมที่เด็ก ๆ วัยนี้ชอบ คือ
การเล่นไล่จับ ไม่ว่าลูกจะยังคลานอยู่ หรือเริ่มเดินได้บ้างแล้ว
คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถทำกิจกรรมนี้กับลูกได้ทุกวัน
นอกจากนี้ เด็ก ๆ ยังชอบแอบดูว่าคุณพ่อคุณแม่ทำอะไร
และเลียนแบบท่าทางต่าง ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่น
เมื่อเห็นคุณแม่กวาดบ้าน ลูกอาจจะเดินมาหยิบไม้กวาด
ทำท่ากวาดบ้านตามคุณแม่ทันที ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี
ที่คุณแม่จะชวนลูกรักมาออกกำลังกายด้วยการทำความสะอาดบ้านง่าย ๆ
อาจชวนคุณพ่อมาช่วยทำความสะอาดบ้านไปพร้อม ๆ กัน
ก็จะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี และมีความสัมพันธ์ภายในบ้านที่แน่นแฟ้นมากขึ้นด้วย
เมื่อเข้าสู่ขวบปีที่สอง กิจกรรมการออกกำลังกายที่เหมาะกับเด็กวัยนี้ คือ
การวิ่งเล่น เพราะเด็ก ๆ จะพัฒนาจากการเดินมาเป็นวิ่งได้ดีมากขึ้น
คุณพ่อคุณแม่อาจชวนลูกมาวิ่งไล่จับกัน
ในสวนสาธารณะกว้าง ๆ หรือสนามหญ้าหน้าบ้าน
นอกจากนี้ เด็กวัย 2 ขวบขึ้นไปยังสามารถกระโดด 2 ขาได้แล้ว
คุณพ่อคุณแม่อาจชวนลูกรักมากระโดด
โลดเต้นบนพื้นยางนิ่ม ๆ ข้างสนามเด็กเล่น
ก็จะช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี
ส่วนอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะ
ในการเอาตัวรอดในอนาคตได้เป็นอย่างดี คือ การว่ายน้ำ
ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกาย
น้ำยังช่วยให้เด็ก ๆ สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อิสระ
และกระตุ้นประสาทสัมผัสส่วนต่าง ๆ ให้ทำงานได้ดีขึ้นไปพร้อม ๆ กันด้วย
เมื่อเข้าสู่ขวบปีที่สาม ลูกรักสามารถทำอะไรเองได้มากขึ้น
คุณพ่อคุณแม่อาจพาลูกน้อยเล่นปีนป่าย
ของเล่นภายในสวนสนุกสำหรับเด็กเล็ก
หรือสนามเด็กเล่นที่มีเครื่องเล่นเสริมสร้างพัฒนาการสำหรับเด็ก
นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจซื้อจักรยานฝึกการทรงตัว
หรือจักรยานสามล้อคันเล็ก ให้ลูกฝึกไถขา
และฝึกทรงตัวในสนามหญ้าหน้าบ้าน
หรือสนามฝึกจักรยานสำหรับเด็กก็ได้
ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยให้ลูกรัก
มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการปีนป่าย และการทรงตัว
ทั้งยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ
ให้มีความแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย
หากคุณพ่อคุณแม่พบว่า ลูกน้อยไม่สามารถ
ทำกิจกรรมบางอย่างตามพัฒนาการแต่ละช่วงวัยได้
ให้เพิ่มความใส่ใจในการกระตุ้นพัฒนาการลูกมากขึ้น
และหากยังพบว่าลูกมีพัฒนาการต่ำกว่าเกณฑ์จนน่ากังวล
ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินพัฒนาการ
และรับการแก้ไขเพื่อให้ลูกรักมีพัฒนาการที่ดีสมวัยได้อย่างทันท่วงที